หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า เจ้าหน้าที่หญิงเชื้อสายแอฟริกันได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งระดับสูงในกระทรวงต่างประเทศ อ้างว่าไม่สบายใจต่อท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการจัดการกับความตึงเครียดทางเชื้อชาติ

รายงานระบุว่า แมรี เอลิซาเบท เทย์เลอร์ วัย 30 ปี ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศในปี 2561 หลังจากทำงานให้ ส.ว.มิตช์ แมคคอนเนลล์ พรรครีพับลิกันและทำงานในทำเนียบขาว เป็นสตรีผิวดำคนแรกและผู้มีอายุน้อยที่สุดที่รับหน้าที่ผู้ประสานงานของนายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศกับสมาชิกสภา เธอระบุในหนังสือลาออกว่า ท่าทีของประธานาธิบดีต่อการประท้วงทั่วประเทศเรื่องการเหยียดผิวอย่างเป็นระบบและความป่าเถื่อนของตำรวจ สวนทางอย่างรุนแรงกับค่านิยมหลักและศรัทธาของเธอ ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงสามารถเปลี่ยนคน เปลี่ยนทิศทางการดำเนินชีวิต และสร้างตัวตน เธอจึงต้องทำตามบงการของสามัญสำนึกและลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยกิจการสภานิติบัญญัติของรัฐมนตรีต่างประเทศ ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนแรกที่ลาออกประท้วงท่าทีของทรัมป์ต่อเรื่องเหยียดผิว

รายงานระบุด้วยว่า เทย์เลอร์เคยส่งข้อความถึงเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศประมาณ 60 คนเมื่อต้นเดือนแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับผู้เจ็บปวดจากการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่เมืองมินนีแอโปลิส รัฐมินนิโซตาเมื่อปลายเดือนก่อนว่า การฆาตกรรมนายฟลอยด์ที่น่าสะพรึงกลัวและการเสียชีวิตของคนอเมริกันผิวดำอีกหลายคนทำให้ค่านิยมหลักของสหรัฐสั่นคลอน เหตุฆาตกรรมชั่วร้ายที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งย้ำเตือนว่า บาดแผลของประเทศฝังลึกและยังไม่ได้รับการเยียวยา